สาดน้ำกรดใส่คนอื่นจนถึงแก่ความตาย!!!
มีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย ต้องระวางโทษประหารชีวิต!!
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(5) ผู้ใดฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย ต้องระวางโทษประหารชีวิต
ฎีกา 5201/2555 แม้น้ำกรดจะมิใช่อาวุธโดยสภาพ แต่ก็เป็นสารเคมีชนิดกรดเกลือซึ่งมีคุณสมบัติกัดกร่อนชนิดรุนแรงที่ทำให้เกิดอันตรายแก่ชีวิต เมื่อจำเลยใช้ราดร่างกายของผู้ตายจนเป็นเหตุให้มีบาดแผลไหม้พองสุกลอกเกือบหมด บางส่วนด้านแข็งที่บริเวณใบหน้า ลำคอ ทรวงอก ลิ้นปี่ แผ่นหลัง บั้นเอว ก้นกบ แขนและมือ ซึ่งเป็นบาดแผลที่ปรากฎภายนอกเกือบทั่วทั้งร่างกายของผู้ตาย ย่อมบ่งชี้ได้ว่าน้ำกรดที่จำเลยใช้นั้นมีปริมาณไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาเหตุการตายของผู้ตายก็เนื่องจากระบบหายใจไหลเวียนโลหิตล้มเหลวจากสารเคมีทำลายผิวหนัง และผู้ตายก็ถึงแก่ความตายในคืนเกิดเหตุนี้เอง อันเป็นผลโดยตรงมาจากน้ำกรดซึ่งจำเลยกระทำไปโดยรู้สำนึก และในขณะเดียวกันย่อมเล็งเห็นผลได้ว่าการกระทำดังกล่าวเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตายได้ โดยก่อนถึงแก่ความตายนั้นผู้ตายย่อมต้องได้รับความลำบากและเจ็บปวดอย่างทรมาณแสนสาหัสจากบาดแผลที่ได้รับ จำเลยจึงมีความผิดฐานฆ่าผู้ตายโดยทรมานและทารุณโหดร้าย
ใช้น้ำกรดสาดใส่ผู้อื่น เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอัตรายสาหัส เป็นความผิดฐานพยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
“แม้น้ำกรด จะไม่ใช่อาวุธโดยสภาพแต่ก็เป็นสารเคมีชนิดกรดเกลือ ซึ่งมีคุณสมบัติกัดก่อนชนิดรุนแรงที่ทำให้เกิดอันตรายแก่ชีวิต”
น้ำกรดที่คนร้ายนำมาสาดใส่ผู้เสียหาย นอกจากจะมีความเข้มข้นสูงแล้วยังมีปริมาณมากทำให้ผู้เสียหายมีบาดแผลถึง 20% ของร่างกาย คนร้ายที่ย่อมเล็งเห็นผลได้ว่าการกระทำของตนเป็นเหตุให้ผู้เสียหายถึงแก่ความตายได้ คนร้ายจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าโดยไตร่ตรอง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 (4) ประกอบ 80 คำพิพากษาฎีกาที่ 9711/2557
ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา ๒๘๙ ผู้ใด
(๔) ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
(๕) ฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย
ต้องระวางโทษประหารชีวิต
มาตรา 80 ผู้ใดลงมือกระทำความผิดแต่กระทำไปไม่ตลอด หรือกระทำไปตลอดแล้วแต่การกระทำนั้นไม่บรรลุผล ผู้นั้นพยายามกระทำความผิด
ผู้ใดพยายามกระทำความผิด ผู้นั้นต้องระวางโทษสองในสามส่วนของโทษที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น