กฎหมายกำหนดไว้ว่า บิดามารดาจำต้องอุปการะเลี้ยงดูและให้การศึกษาตามสมควรแก่บุตรในระหว่างที่ยังเป็นผู้เยาว์
แต่เมื่อแม่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับพ่อ ลูกที่เกิดมาจึงยังไม่เป็นลูกโดยชอบด้วยกฎหมายของพ่อ
ดังนั้น การจะฟ้องเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูจากพ่อนั้น จะต้องทำให้ลูกที่เกิดขึ้นมาเป็นลูกที่ชอบด้วยกฎหมายของพ่อก่อน
ซึ่งการที่จะทำเด็กให้เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายนั้นมีอยู่ด้วยกัน 3 วิธี คือ
1.เมื่อพ่อและแม่ได้มีการสมรสกันในภายหลัง หรือ
2.เมื่อพ่อได้จดทะเบียนว่าเด็กนั้นเป็นลูกของตน หรือ
3.เมื่อศาลมีคำพิพากษาว่าให้เด็กเป็นบุตรของฝ่ายชาย
ดังนั้น หากไม่มีการจดทะเบียนสมรสกัน หรือพ่อไม่ยอมจดทะเบียนรับเด็กเป็นบุตร ก็ต้องฟ้องคดีต่อศาลเพื่อให้ศาลมีคำพิพากษาว่าเด็กเป็นบุตรของฝ่ายชาย เพื่อให้เกิดสิทธิในการเรียกร้องค่าอุปการะเลี้ยงดูต่อไป กฎหมายกำหนดหลักไว้ว่าบิดามารดาต้องอุปการะเลี้ยงดูและให้การศึกษาแก่บุตรจนกว่าจะบรรลุนิติภาวะคืออายุ 20 ปีบริบูรณ์
ทั้งนี้ มารดาสามารถยื่นฟ้องบิดาต่อศาลเยาวชนและครอบครัว โดยการฟ้องเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรนั้นได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียค่าขึ้นศาลและค่าธรรมเนียม และเพื่อความสะดวกรวดเร็วการฟ้องเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร ก็ยังสามารถฟ้องรวมกับการฟ้องให้บิดารับเด็กเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายอีกด้วย
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1546,1547,1564