โดนขู่ว่าจะเอาภาพลับส่วนตัว ที่แฟนเก่าหรือผู้ใด เคยถ่ายตอนอยู่ด้วยกันไปปล่อยบนโลกออนไลน์ โดยเรียกเงินเพื่อแลกกับการที่จะไม่ทำตามคำขู่จะนำไปประจาน หากไม่ยอมทำตาม ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องอาย
คำพิพากษาฎีกาที่ ๑๑๘๘/๒๕๖๑ จำเลยส่งข้อความถึงโจทก์ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต โปรแกรมสไกป์ (SKYPE) และแอปพลิเคชันไลน์ (LINE) ว่า จำเลยต้องการเงิน ๑๐๐,๐๐๐ ดอลล่าร์ฮ่องกง หากโจทก์ไม่ยินยอมมอบเงินให้ จำเลยจะเปิดเผยภาพเปลือยและวิดีโอบันทึกภาพลามกเกี่ยวกับโจทก์ซึ่งเป็นความลับให้บุตรสาวโจทก์ทราบ การกระทำของจำเลยเป็นการข่มขืนใจผู้อื่น ให้ยอมให้ หรือยอมจะให้ตนหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน โดยขู่เข็ญจะเปิดเผยความลับ ซึ่งการเปิดเผย นั้นจะทำให้ผู้ถูกขู่เข็ญหรือบุคคลที่สามเสียหาย ครบองค์ประกอบความผิดฐานรีดเอาทรัพย์ เมื่อโจทก์ไม่ยินยอมมอบเงินให้ตามที่จำเลยขู่เข็ญ การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานพยายามรีดเอาทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๘, ๘๐
การขู่เข็ญว่าจะเปิดเผยความลับซึ่งเป็นองค์ประกอบความผิดตาม ป.อ. มาตรา ๓๓๘ หมายความว่า การขู่เข็ญว่าจะเปิดเผยเหตุการณ์ข้อเท็จจริงที่ไม่ประจักษ์แก่บุคคลทั่วไป และเป็นข้อเท็จจริงที่เจ้าของความลับประสงค์จะปกปิดไม่ให้บุคคลอื่นรู้ ดังนี้ ความลับจึงไม่จำเป็นต้องเป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมาย หรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือผิดศีลธรรมอันดีของประชาชน หากเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงและเจ้าของข้อเท็จจริงประสงค์จะปกปิดไม่ให้บุคคลอื่นรู้ก็ถือว่าเป็นความลับแล้ว(ฎีกาที่ ๑๒๖๘๕/๒๕๕๘)
หากเราเจอกรณีแบบนี้ แจ้งความดำเนินคดีได้เลย!!!
1.เก็บหลักฐานที่มีคนโพสต์หรือแชร์
ให้ผู้เสียหายรวบรวมพยานหลักฐานที่พบการกระทำความผิด ไม่ว่าจะมีการเผยแพร่ผ่านช่องทางออนไลน์ใดก็ตาม ให้เก็บไว้ว่าใครเป็นคนโพสต์เผยแพร่ให้ปรากฏชัดเจน ส่วนใครที่นำไปแชร์ต่อ ให้เก็บหลักฐานไว้เช่นกัน เนื่องจากมีความผิดทั้งคนโพสต์และคนแชร์
2.เก็บหลักฐานการข่มขู่
ในกรณีที่มีการแบล็กเมล์ ข่มขู่ เรียกร้องทรัพย์สินกับผู้เสียหายผ่านทางโทรศัพท์ ให้บันทึกเสียงไว้ตอนพูดข่มขู่ แต่หากพูดกันตัวต่อตัวต้องหาพยาน
กรณีนี้ มีความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 338 ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่น ให้ยอมให้ หรือยอมจะให้ตนหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน โดยขู่เข็ญว่าจะเปิดเผยความลับซึ่งการเปิดเผยนั้นจะทำให้ผู้ถูกขู่เข็ญหรือบุคคลที่สามเสียหาย จนผู้ถูกข่มขืนใจยอมเช่นว่านั้น ผู้นั้นกระทำความผิดฐานรีดเอาทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท
และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ พ.ศ.2560 มาตรา 14 (4) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ ส่วนคนที่แชร์ต่อ จะมีความผิดตามมาตรา 14 (5) เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม (1) (2) (3) หรือ (4)
3.แจ้งความ ณ สถานีตำรวจท้องที่ที่เกิดเหตุ